ให้บริการสอบเทียบเครื่องมือวัด อุตสาหกรรมอย่างมืออาชีพ ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ทางด้านงานสอบเทียบ มุ่งมั่นเน้นการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า ให้บริการอย่างมีคุณภาพ calibration Services ภายใต้มาตรฐาน ISO / IEC 17025 Temperature, Humidity, Mass / Balance, Lux Meter, Digital Thermometer, Power Meter
เราต้อง calibration Services สอบเทียบเครื่องมือวัด อย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือชนิดใด เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงและมีความคลาดเคลื่อนเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเสื่อมสภาพตามกาลเวลาและสภาวะแวดล้อมต่างๆ เช่น อุณหภูมิ, ไฟฟ้า, สารเคมี Chemical หรือแรงกระแทกทางกล เป็นต้น ทั้งนี้การเสื่อมสภาพอาจเกิดขึ้นได้จากการใช้งานหรือการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม
เมื่อเครื่องมือวัดมีความคลาดเคลื่อนสูงขึ้น ค่าที่วัดได้ย่อมไม่น่าเชื่อถือ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องชั่งในการชั่งวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสอบเทียบเครื่องมือทุกชนิดตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้แน่ใจว่ามีความถูกต้องอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ก่อนนำไปใช้ในกระบวนการผลิต
การสอบเทียบ เครื่องมือจึงถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการควบคุมคุณภาพของภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้ได้มาตรฐานและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ก่อนส่งออกจำหน่าย
การสอบเทียบ เครื่องมือวัดจำเป็นต้องทำเมื่อผลการวัดมีผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพของข้อมูลหรือผลิตภัณฑ์ หากเครื่องมือวัดนั้นไม่ส่งผลต่อคุณภาพ ก็ไม่จำเป็นต้องสอบเทียบ calibration Services
ในการพิจารณาว่าเครื่องมือวัดใดควรได้รับ service บริการสอบเทียบเครื่องมือวัด สามารถใช้หลักเกณฑ์ดังนี้
โดยสรุป หลักการพื้นฐานคือต้องสอบเทียบทุกเครื่องมือวัดที่มีผลต่อคุณภาพของผลลัพธ์หรือข้อมูลที่ได้รับ เพื่อให้มั่นใจในความน่าเชื่อถือของการวัดค่า
องค์ประกอบของการสอบเทียบเครื่องมือวัด ที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน ISO / IEC 17025 ประกอบด้วย 4 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
1. เครื่องมือวัดอ้างอิง (reference standards equipment)
2. วิธีการสอบเทียบที่เหมาะสม (method)
3. สภาวะแวดล้อมของห้องปฏิบัติการสอบเทียบ (laboratory)
4. บุคลากรผู้ทำหน้าที่สอบเทียบ (personnel)
การสอบเทียบมีความสำคัญต่อหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การควบคุมคุณภาพ การวิจัยและพัฒนา หรือแม้แต่ในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ เครื่องมือวัดที่ไม่ได้รับการสอบเทียบอย่างถูกต้องอาจให้ผลการวัดที่คลาดเคลื่อน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ดังนี้
ด้วยเหตุนี้ การสอบเทียบเครื่องมืออย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าผลการวัดมีความถูกต้องและเชื่อถือได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและต้นทุน พร้อมทั้งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์และงานวิจัย
ให้บริการงานซ่อมเครื่องมือวัดทางไฟฟ้าและงานอุตสาหกรรมทุกประเภท โดยช่างผู้มีประสบการณ์ในงานซ่อมเครื่องมือวัดกว่า 20 ปี
การสอบเทียบเครื่องมือที่ถูกต้องประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้
1. กำหนดเครื่องมือวัดที่ต้องสอบเทียบ
ขั้นตอนแรกคือการระบุเครื่องมือวัดที่จำเป็นต้องได้รับการสอบเทียบ โดยพิจารณาจากความสำคัญของเครื่องมือ ความถี่ในการใช้งาน และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหาก เครื่องมือวัด ไม่ถูกต้อง
2. กำหนดความถี่ในการสอบเทียบ
ความถี่ในการสอบเทียบขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ชนิดของเครื่องมือ ความถี่ในการใช้งาน สภาพแวดล้อมในการทำงาน และข้อกำหนดของอุตสาหกรรม โดยทั่วไปแล้ว ควรสอบเทียบ อย่างน้อยปีละครั้ง หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต
3. เลือกผู้ให้บริการสอบเทียบที่เหมาะสม
การเลือกผู้ให้บริการสอบเทียบที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการรับรองมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ให้บริการควรมีความเชี่ยวชาญในการสอบเทียบในประเภทนั้นๆ และใช้มาตรฐานอ้างอิงที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
4. เตรียมเครื่องมือวัด สำหรับการสอบเทียบ
ก่อนส่งเครื่องมือวัดไปสอบเทียบ ควรทำความสะอาดและตรวจสอบสภาพของเครื่องมือ เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน หากพบความผิดปกติ ควรแจ้งให้ผู้ให้บริการสอบเทียบทราบ
5. ดำเนินการสอบเทียบ
ในระหว่างกระบวนการสอบเทียบ ผู้ให้บริการจะเปรียบเทียบค่าที่วัดได้จากเครื่องมือกับค่ามาตรฐานที่ทราบค่าแน่นอน ความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้นจะถูกบันทึกและใช้ในการปรับแต่ง เครื่องมือวัด ให้มีความถูกต้องมากขึ้น
6. จัดทำรายงานการสอบเทียบ
หลังจากการสอบเทียบเสร็จสิ้น ผู้ให้บริการจะจัดทำรายงานการสอบเทียบ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลสำคัญ เช่น ค่าความคลาดเคลื่อนก่อนและหลังการปรับแต่ง วิธีการสอบเทียบ และการรับรองความถูกต้องของผลการสอบเทียบ
7. เก็บบันทึกและติดตามผล
องค์กรควรเก็บรักษารายงานการสอบเทียบและบันทึกที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันความถูกต้องของ เครื่องมือวัด และเพื่อติดตามประวัติการสอบเทียบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนการสอบเทียบครั้งต่อไป