EV CAR คืออะไร มีกี่ประเภท และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร

EV CAR

EV CAR คือรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานหลัก นับเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูจากยอดที่ผู้คนให้ความสนใจและยอดการจองรถ รถพลังงานสะอาด ประหยัด ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม และวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักรถ EV CER คืออะไร มีกี่ประเภทพร้อมกับข้อดีและข้อเสียของรถไฟฟ้ากัน

EV CAR ย่อมาจากอะไร

EV CAR ย่อมาจาก ELECTRIC VEHICLE ยานยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อน มีคุณสมบัติที่ทำให้เป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากใช้แหล่งพลังงานที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูง รถ EV CAR THAILAND ใช้ระบบกักเก็บไฟฟ้าภายในตัวรถเองเพื่อให้เป็นแหล่งพลังงานหลัก ๆ และทำให้ไม่มีการปล่อยไอเสียออกมาจากท่อไอเสีย สิ่งนี้ช่วยลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มาก

ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า สมัยใหม่มีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานไฟฟ้าจากระบบแบตเตอรี่ไปยังล้อที่สูงถึง 59-62% โดยมีระยะทางการขับขี่ระหว่าง 60 ถึง 400 กิโลเมตร ก่อนที่จะต้องชาร์จใหม่อีกครั้ง ระยะเวลาในการชาร์จมักอยู่ที่ 4-8 ชั่วโมง ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ แต่หากใช้ SUPER CHARGER การชาร์จสามารถทำได้เร็วขึ้นถึงครึ่งเวลา

มอเตอร์ไฟฟ้าของรถ EV CAR THAILAND มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป และได้รับการพัฒนาเพื่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลิเทียม โดยมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา เช่น การเบรกแบบปฏิรูปและระบบกันสะเทือนแบบ ACTIVE เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยขณะขับขี่

รถยนต์ไฟฟ้า EV CAR มีกี่ประเภท

รถยนต์ไฟฟ้า EV CAR มีกี่ประเภท

ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า EV CAR ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ตามระดับของเทคโนโลยีที่นำมาใช้ ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและความสามารถที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

1. รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (HYBRID ELECTRIC VEHICLE : HEV)

ประเภทนี้ใช้พลังงานผสมผสานระหว่างเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ทำให้รถประหยัดน้ำมันมากกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงเดียว

2. รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PLUG-IN HYBRID ELECTRIC VEHICLE : PHEV)

ประเภทนี้สามารถชาร์จไฟจากปลั๊กภายนอกได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน รถยนต์สามารถวิ่งไปได้ในระยะทางไกลกว่า HEV และยังสามารถชาร์จไฟเพิ่มเมื่อต้องการ

3. รถยนต์ไฟฟ้าแบบ เชื้อเพลิงเดียว (PLUG-IN ELECTRIC VEHICLES : PEVS)

รถยนต์ไฟฟ้า ประเภทนี้มีลักษณะคล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญอยู่ที่ขนาดของแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น โดยที่แบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้มีขนาดใหญ่มาก เป็นแหล่งพลังงานหลักที่สำคัญอย่างเดียว แต่ว่าหากแบตหมดคงจะต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จประจุใหม่ สามารถแยกตามการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ ได้ดังนี้

รถยนต์ไฟฟ้าประเภท BATTERY ELECTRIC VEHICLE (BEV)

ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เท่านั้น มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สามารถวิ่งได้ระยะทางไกล แต่ต้องการการชาร์จที่สะดวก

รถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FUEL CELL ELECTRIC VEHICLE – FCEV)

ใช้เซลล์เชื้อเพลิง (FUEL CELL) ที่ให้พลังงานไฟฟ้า จะต้องเติมเชื้อเพลิงภายนอกด้วยไฮโดรเจน ถือเป็นรถยนต์ที่สะอาดและไม่ปล่อยมลพิษ

แต่ละประเภทมีข้อได้เปรียบและข้อจำกัดของตัวเอง คนไทยสามารถเลือกใช้ รถยนต์ไฟฟ้า ตามความต้องการและการใช้งานส่วนตัวของตนเองได้

ข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์ EV CAR

ข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์ EV CAR

ข้อดี

  1. ค่าเชื้อเพลิงมีราคาไม่แพง

เมื่อพิจารณาถึงราคาของ รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV CAR BATTERY จะพบว่ามูลค่าทางการเงินของรถเหล่านี้ไม่เบานัก นั่นเป็นเพราะพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนรถไฟฟ้ามาจากการชาร์จประจุไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ นี้ทำให้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเชื้อเพลิงของรถไฟฟ้าเป็นที่คุ้มค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เช่นกัน คาดว่าราคาของรถไฟฟ้าจะตกลงอย่างต่อเนื่องตามท้องตลาดปัจจุบัน

  1. เครื่องยนต์ทำงานเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน

ด้วยกลไกการขับเคลื่อนที่ไม่ใช้การจุดระเบิดเชื้อเพลิงอย่างน้ำมันของ รถไฟฟ้า EV ทำให้รถเหล่านี้มีคุณสมบัติที่น่าประทับใจ เสียงเครื่องยนต์ที่เงียบสงบนี้ทำให้รถไฟฟ้ากลายเป็นตัวเลือกที่มีความเงียบสงบมากกว่ารถที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ถ้าคุณคือคนที่ชื่นชอบเสียงเครื่องยนต์ที่เงียบเบาและไม่มีเสียงรบกวน รถไฟฟ้า EV คือตัวเลือกที่ไม่ต้องพลาด

  1. รักษาสิ่งแวดล้อม

ด้วยระบบการทำงานที่ใช้ไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รถยนต์ไฟฟ้า EV ไม่ต้องใช้การจุดระเบิดเพื่อขับเคลื่อน ทำให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง ไม่มีการปล่อยไอเสียที่เป็นมลพิษ ด้วยลักษณะนี้เทคโนโลยีของรถไฟฟ้า EV ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นแนวทางที่ดีที่จะลดปัญหามลพิษในท้องถิ่น

ข้อเสีย

  1. ตัวรถยนต์มีราคาสูง

ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายในด้านเชื้อเพลิงจะต่ำลง แต่กระบวนการผลิตและการวางจำหน่ายต้องใช้เทคโนโลยีที่มีราคาสูง นั่นทำให้ราคาของรถยนต์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

  1. ระยะทางจำกัด และมีสถานีให้บริการชาร์จไฟน้อย

รถไฟฟ้า EV มีความจำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานจากแบตเตอรี่ แต่โดยรวมแบตเตอรี่มีข้อจำกัดในการให้พลังงานและต้องมีกระบวนการประจุไฟฟ้า ทำให้ระยะทางขับขี่จำกัดลง นอกจากนี้รถไฟฟ้า EV ยังเป็นที่น้อยในตลาดไทยและมีจำนวนน้อยของแบรนด์ที่ผลิตรถประเภทนี้ ดังนั้น, ความประสงค์ในการใช้งานต้องการเวลาในการเจรจาและเพิ่มความมั่นใจในการเลือกซื้อรถที่ใช้เทคโนโลยีนี้

อย่างไรก็ตามสถานีบริการชาร์จไฟเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการใช้งาน การเดินทางในระยะไกลต้องพิจารณาถึงความจำเป็นในการชาร์จแบตเตอรี่ ถ้ามีจำนวนสถานีชาร์จน้อย ผู้คนอาจละเลยการใช้งานและยังคงไม่ได้รับการยอมรับในการเปลี่ยนจากรถที่ใช้น้ำมันสู่รถไฟฟ้า EV ซึ่งทำให้พิจารณาความสะดวกสบายของการชาร์จเป็นสำคัญมาก

  1. ระยะเวลาในการชาร์จไฟที่ถี่ และใช้เวลาในการชาร์จนาน

ถึงแม้ว่าการพัฒนาแบตเตอรีและกระบวนการชาร์จของรถไฟฟ้าได้ทำไปอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีความท้าทายในเรื่องของระยะเวลาการชาร์จที่ยาวนานและการต้องชาร์จบ่อย สำหรับผู้ใช้รถ การเติมน้ำมันในรถที่ใช้น้ำมันในระยะเวลาสั้นๆ นั้นมีความสะดวกดีเพียงเลี้ยวเข้าปั๊มแค่ 2-3 นาที แต่สำหรับรถไฟฟ้า การชาร์จบางครั้งอาจใช้เวลานาน หรือต้องทำการชาร์จบ่อย บางรุ่นอาจใช้เพียง 30 นาทีในขณะที่บางรุ่นก็ต้องใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง นี้เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ผู้ที่สนใจรถไฟฟ้าต้องพิจารณาให้ละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้งาน

  1. ตัวเลือกยังน้อย

การที่รถไฟฟ้าหรือ รถยนต์ EV ยังเป็นที่นิยมในประเทศไทยน้อยมากนั้นเนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งเข้ามาในตลาดไทยได้ไม่นาน มีไม่กี่ค่ายที่ผลิตหรือนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ EV มาจำหน่ายในประเทศ รุ่นที่มีอยู่ในตลาดมักเน้นการใช้งานในเขตเมืองมากกว่าการขับระยะไกล นั่นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตัวเลือกของรถยนต์ไฟฟ้ายังมีน้อยมากในตลาดไทย

สรุป

EV CAR คือนวัตกรรมใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมมากในวงการยานยนต์ในปัจจุบัน ระดับความสนใจจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ทุกแบรนด์ก็เพิ่มมากขึ้น โรงไฟฟ้าชีวมวล พวกเขากำลังทำการเน้นและเร่งรีบในการผลิตรถยนต์ EV รุ่นต่าง ๆ เพื่อพลิกผันสถานการณ์ในตลาด การแข่งขันนี้มีมุมมองทางดีไซน์ การใช้พลังงานที่อนุญาต (GREEN ENERGY) ที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อม และการลดการใช้ทรัพยากรที่มีชีวิตน้อยที่สุด

บทความน่าสนใจ