สารไซยาไนด์ ที่เป็นพิษที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันของเราโดยไม่รู้ตัว

สารไซยาไนด์

สารไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นสารเคมีที่มีพิษร้ายแรงมาก สามารถทำให้ผู้ที่มีการสัมผัสเสียชีวิตได้ภายในเวลาอันเร็วด้วยเพียงไม่กี่นาที โดยจะขึ้นอยู่กับปริมาณและความเข้มข้นของสารที่ได้รับเข้าไปในร่างกาย สารพิษชนิดนี้จะทำปฏิกิริยาการเคลื่อนที่ในร่างกายของเรา

ไซยาไนด์ คืออะไร

ไซยาไนด์เป็นสารเคมีที่มีพิษร้ายแรงพอๆกับซีเซียม-137เลย สามารถทำให้ผู้ที่สัมผัสเสียชีวิตได้ภายในเวลาอันเร็ว โดยมีผลขึ้นอยู่กับปริมาณและความเข้มข้นของสารที่ร่างกายได้รับเข้าไป สารพิษชนิดนี้ทำให้เกิดปฏิกิริยาการยับยั้งเซลล์ในร่างกาย ทำให้เซลล์ไม่สามารถใช้ออกซิเจนได้ ซึ่งส่งผลให้เซลล์ไม่สามารถผลิตสาร ATP ที่ให้พลังงานได้อย่างเพียงพอและสุดท้ายเสียชีวิตได้ ไซยาไนด์สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านหลายช่องทาง เช่น การสัมผัสผิวหนัง การหายใจเข้าไป และการทานเข้าสู่กระเพาะอาหาร อาการผิดปกติทางร่างกายที่อาจเกิดขึ้นหลากหลาย

เช่น ระคายเคืองผิวหนัง ผื่นแดง บวมน้ำ มึนงง เวียนศีรษะ ความดันโลหิตสูงหรือต่ำผิดปกติ ช็อค อาเจียน ไตล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ และการหยุดเต้นของหัวใจ ดังนั้นการระวังและป้องกันการสัมผัสไซยาไนด์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และหากมีอาการที่สงสัยอย่างใดควรพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อการรักษาและการดูแลที่เหมาะสม

อันตรายจาก “ไซยาไนด์” สารพิษใกล้ตัว

การสัมผัสกับไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นเรื่องที่อันตรายและเป็นภัยต่อชีวิต โดยสารพิษนี้สามารถมีผลต่อร่างกายได้อย่างรวดเร็วหลังจากการสัมผัส เมื่อไซยาไนด์เข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดการยับยั้งการทำงานของเซลล์ ซึ่งทำให้เซลล์ไม่สามารถใช้ออกซิเจนได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ไซยาไนด์มีกลิ่นเฉพาะเรียกว่ากลิ่นอัลมอนด์ขม (Bitter almond) และสามารถพบได้ในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

  • ภาวะก๊าซ Hydrogen cyanide เป็นแก๊สไม่มีสี สามารถพบได้จากการเผาไหม้สารพลาสติก เมลามีน ขนสัตว์ และหนังเทียม ซึ่งมักพบได้ในเหตุการณ์การไหม้
  • กลุ่มเกลือไซยาไนด์ เป็นก้อนผลึกหรือผงสีขาว เช่น Sodium cyanide และ Potassium cyanide ซึ่งมักนำไปใช้ในอุตสาหกรรม เช่น การชุบโลหะ การสังเคราะห์สารเคมี เช่น น้ำยาประสานทอง สี และสารเคมีกำจัดแมลงบางชนิด นอกจากนี้ยังพบได้ในสารเคมีที่ใช้ในบ้านบางชนิด เช่น น้ำยาล้างเล็บที่มี acetonitrile ปนอยู่ และน้ำยาล้างเครื่องเงิน
  • ไซยาไนด์ในพืชธรรมชาติ มีสาร Cyanogenic glycosides พบได้ในเมล็ดของเอพริคอต เชอร์รี่ดำ หน่อไม้ดิบ หัวและใบของมันสำปะหลังดิบ เป็นต้น

การระมัดระวังและการป้องกันการสัมผัสกับไซยาไนด์เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อชีวิตและสุขภาพของมนุษย์

อาการของผู้ที่ได้รับไซยาไนด์

อาการของผู้ที่ได้รับไซยาไนด์ เป็นอย่างไร

ผู้ที่ได้รับไซยาไนด์อาจมีอาการต่าง ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับการสัมผัสกับสารพิษและปริมาณของสารพิษที่ได้รับ เช่น

  • ระคายผิวหนัง ผื่นแดง
  • บวมน้ำ การรับรสผิดปกติ
  • มึนงง คลื่นไส้ กระวนกระวาย  เวียนศีรษะ
  • ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ
  • ลมชัก หมดสติ อาเจียน
  • ไตล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจหยุดเต้น

โปรดทราบว่าอาการเหล่านี้เป็นเพียงเพียงข้อสังเกตอย่างรวม เนื่องจากอาการที่แท้จริงอาจแตกต่างไปตามบุคคลและสภาพการรับสารพิษของแต่ละบุคคล

ผู้ที่ได้รับไซยาไนด์ในปริมาณน้อยอย่างต่อเนื่องอาจมีอาการต่อไปนี้

  • ปวดหัว
  • การรับรสผิดปกติ
  • อาเจียน
  • เจ็บหน้าอก
  • ปวดท้อง
  • กระวนกระวาย

นอกจากนี้ ผู้ที่สูบบุหรี่อย่างสม่ำเสมออาจมีการสูญเสียการมองเห็น และการสะสมของสารไซยาไนด์จากการรับประทานพืชบางชนิดในปริมาณมากเกินไป เช่น มันสำปะหลัง อาจทำให้เกิดอาการชา สูญเสียการทรงตัว สูญเสียการได้ยิน และประสาทตาฝ่อ อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาได้โดยการรับประทานวิตามิน B12

วิธีการป้องกันตนเองจากพิษไซยาไนด์

เพื่อป้องกันตนเองจากพิษไซยาไนด์ คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการรับประทานเมล็ดของผลไม้ เช่น เมล็ดแอปเปิ้ล แอปริคอต พีช ลูกแพร และถั่วอัลมอนด์รสขม
  • หากรับประทานมันสำปะหลังหรือหน่อไม้ ควรปรุงให้สุกทุกครั้งก่อนรับประทาน
  • ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ ให้ก้มต่ำ ใช้ผ้าปิดจมูก และคลานเพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดมควันไฟที่มีส่วนผสมของสารพิษไซยาไนด์

วิธีการปฐมพยาบาลผู้ได้รับไซยาไนด์

วิธีการปฐมพยาบาลผู้ได้รับไซยาไนด์

เมื่อมีผู้สัมผัสกับไซยาไนด์ทางผิวหนัง ควรปฐมพยาบาลตามขั้นตอนดังนี้

  • เมื่อไซยาไนด์สัมผัสกับผิวหนัง ให้รีบล้างผิวบริเวณที่สัมผัสกับไซยาไนด์ด้วยสบู่และน้ำทันที โดยให้น้ำไหลผ่านผิวหนังอย่างน้อย 15 นาที ทั้งนี้ผู้ที่ช่วยเหลือควรป้องกันตนเองโดยการสวมชุดและหน้ากากป้องกัน และรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
  • หากไซยาไนด์หกรดลงบนเสื้อผ้า ให้รีบถอดเสื้อผ้าออกโดยเร็ว หรือใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้าส่วนนั้นออกเพื่อป้องกันไม่ให้สารพิษสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง

ผู้สัมผัสไซยาไนด์ทางดวงตา

  • เมื่อไซยาไนด์สัมผัสกับดวงตา ให้ล้างตาด้วยการเปิดน้ำให้ไหลผ่านดวงตาอย่างน้อย 15-20 นาที และห้ามขยี้ตาโดยเด็ดขาด หากใส่คอนแทคเลนส์ ให้ใช้มือสะอาดถอดคอนแทคเลนส์ออกก่อนล้างดวงตา และรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที

ผู้ได้รับไซยาไนด์ผ่านการสูดดม

เมื่อมีผู้ได้รับไซยาไนด์ผ่านการสูดดมหรือการรับประทานอาหาร ควรปฐมพยาบาลตามขั้นตอนดังนี้:

  • โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เพื่อขอความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
  • ให้รีบย้ายร่างของผู้ป่วยมาในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เช่น ภายนอกอาคาร หรือใกล้กับหน้าต่าง
  • ห้ามให้น้ำหรืออาหารแก่ผู้ป่วยโดยเด็ดขาด
  • หากผู้ป่วยหมดสติหรือไม่หายใจ ให้ทำ CPR หรือการนวดหัวใจกู้ชีพโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ผู้กู้ชีพไม่ควรทำการผายปอด หรือเป่าปากโดยเด็ดขาดเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับไซยาไนด์
  • ระหว่างรอการช่วยเหลือทางการแพทย์ ให้ทำการกู้ชีพอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูล และอาการของผู้ป่วยให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

สรุป

การสัมผัสกับไซยาไนด์เป็นอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากไซยาไนด์เป็นสารเคมีที่มีพิษรุนแรงทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้ออกซิเจนได้ ในชีวิตของเรานั้น โอกาสในการสัมผัสกับไซยาไนด์นั้นมีอยู่หลายช่องทาง เนื่องจากสารพิษชนิดนี้ปะปนอยู่ในอาหาร ในขั้นตอนการผลิตของใช้ในชีวิตประจำวัน และในควันไฟเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ดังนั้น การรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกต้อง และการนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด สามารถเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตได้ และโซดาไฟก็ช่วยทำความสะอาดสารเคมีได้ดี

บทความน่าสนใจ