การ สอบเทียบ LIGHT METER หรือเครื่องวัดแสงมีความจำเป็น สำหรับการวัดที่มีประสิทธิภาพ ในการสอบเทียบ Lux meter ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน เครื่องกำเนิดแสงที่มีค่าความเข้มการส่องสว่างที่ทราบค่าจะวางไว้ตรงข้ามกับเซ็นเซอร์ของ Lux meter เพื่อให้แสงส่องสว่างสม่ำเสมอ การวัดจะใช้ระยะห่างที่แตกต่างกันห้าระยะ เพื่อกำหนดความเข้มแสงอ้างอิงและค่าเฉลี่ยของการวัดเหล่านี้ จะถูกปรับโดยใช้ปัจจัยแก้ไข
ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีความมั่นใจในขณะทำงาน โดยปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญคือเรื่องแสงสว่าง ซึ่งต้องมีความเข้มตามมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมการทำงาน เนื่องจากความเข้มของแสงส่งผลโดยตรงต่อผู้ปฏิบัติงาน หากแสงสว่างน้อยเกินไป อาจทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักจนเกินไปในการมองวัตถุหรืองาน ส่งผลให้เกิดอาการปวดตาหรือมึนศีรษะได้
แต่หากแสงสว่างมากเกินไป อาจทำให้กล้ามเนื้อตาเหนื่อยล้า มองพร่ามัว ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพสายตา เราจะทราบได้อย่างไรว่าแสงสว่างในสถานที่ทำงานมีความเข้มเพียงพอหรือไม่ และการวัดค่าด้วยเครื่องมือวัดแสง Lux meter มีความถูกต้องแม่นยำหรือไม่ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเครื่องวัดชนิดนี้กัน
ทำไมต้องสอบเทียบ LUX LIGHT METER (เครื่องมือวัดแสง)
เครื่องมือวัดแสง มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน เนื่องจากต้องการความแม่นยำสูงในการวัดค่า หากเครื่องมือมีการอ่านค่าคลาดเคลื่อน อาจนำไปสู่อันตรายร้ายแรง เช่น การสูญเสียดวงตา ฉะนั้น การดูแลรักษาและการ สอบเทียบ LIGHT METER เครื่องมือวัดแสงอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันความผิดพลาดและรับประกันความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
ทำความรู้จัก LIGHT METER
LIGHT METER หรือ เครื่องวัดแสง เป็นเครื่องมือวัดปริมาณความเข้มของแสงสว่างในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ โดยจะแสดงค่าเป็นหน่วย Lux หรือ Foot Candle เครื่องวัดแสงในปัจจุบันได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูง สามารถวัดค่าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ พกพาสะดวก น้ำหนักเบา ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล และห้องปฏิบัติการ เป็นต้น
หลักการทำงานของเครื่องมือวัดแสง (LIGHT METER)
หลักการทำงานของ เครื่องวัดแสง (Light Meter) นั้นอาศัยหลักการของเซลล์โฟโตอิเล็กทริก (Photoelectric Cell) หรือตัวรับรู้แสง ซึ่งจะถูกติดตั้งอยู่ภายในโคมพลาสติกสีขาวขุ่น เมื่อมีแสงตกกระทบเซลล์โฟโตอิเล็กทริก เซลล์จะแปลงพลังงานแสงให้เป็นประจุไฟฟ้า สอบเทียบ เครื่องชั่งน้ำหนัก จากนั้นวงจรประมวลผลจะคำนวณค่าประจุไฟฟ้าเป็นหน่วยความเข้มแสง Lux และแสดงผลเป็นตัวเลขบนหน้าจอดิจิทัล ทำให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านค่าความเข้มแสงได้อย่างสะดวกและแม่นยำ
ประเภทของ LIGHT METER
เครื่องวัดแสง (Light Meter) มี 2 ประเภทหลัก ได้แก่
- เครื่องวัดแสงแบบอนาล็อก (Analog) ซึ่งแสดงผลการวัดด้วยเข็มบอกค่าบนหน้าปัด
- เครื่องวัดแสงแบบดิจิทัล (Digital) ที่แสดงค่าความเข้มแสงเป็นตัวเลขบนหน้าจอ LED ซึ่งเป็นประเภทที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน
โดยทั่วไป เครื่องวัดแสงจะมีช่วงการวัดแบ่งเป็น 5 ระดับ (Range) เพื่อครอบคลุมการวัดในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งนี้ ห้องปฏิบัติการ สอบเทียบ LIGHT METER เครื่องวัดแสงได้ถึง 25,000 ลักซ์ ซึ่งเพียงพอสำหรับการวัดในสภาพแวดล้อมทั่วไป
เครื่องวัดแสงใช้งานอย่างไร ?
การใช้งาน เครื่องวัดแสง ให้ดำเนินการดังนี้
- กดปุ่ม Power เพื่อเปิดเครื่อง
- เปิดฝาครอบตัวรับรู้แสง (Sensor)
- หันตัวรับรู้แสงไปยังบริเวณที่ต้องการวัด โดยให้ตัวรับรู้แสงตั้งฉากกับแหล่งกำเนิดแสง
- เลือกช่วงการวัด (Range) ให้เหมาะสมกับปริมาณแสงที่คาดว่าจะวัด
- ปรับหน่วยการวัดให้เป็น Lux หรือ Foot Candle ตามที่ต้องการ โดยกดปุ่มเปลี่ยนหน่วย
- หากต้องการบันทึกค่าสูงสุด ให้กดปุ่มบันทึกค่า (Data Hold)
- เมื่อใช้งานเสร็จ ให้กดปุ่ม Power อีกครั้งเพื่อปิดเครื่อง หรือรอให้เครื่องปิดอัตโนมัติ
- ปิดฝาครอบตัวรับรู้แสงเพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อไม่ใช้งาน
การตรวจวัดความเข้มของแสงด้วย LUX METER (เครื่องวัดแสง)
แสง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน หากแสงสว่างมีความเข้มน้อยเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักเพื่อมองเห็นรายละเอียด ส่งผลให้เกิดความเมื่อยล้า ปวดตา มึนศีรษะ และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุจากการมองไม่ชัดเจนได้ ในทางกลับกัน หากแสงสว่างมีความเข้มมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดความไม่สบาย เมื่อยล้า ปวดตา มึนศีรษะ กล้ามเนื้อหนังตากระตุก วิงเวียน นอนไม่หลับ และส่งผลให้การมองเห็นแย่ลงได้เช่นกัน
การกำหนดความเหมาะสมของความเข้มแสงสว่าง จึงมีความสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน โดยควรกำหนดความเข้มของแสงให้เหมาะสมกับพื้นที่และลักษณะงาน สำหรับงานที่ต้องการความละเอียด สอบเทียบ THERMOMETER จำเป็นต้องใช้แสงสว่างที่มีความเข้มมากขึ้น ทั้งนี้สามารถตรวจสอบค่ามาตรฐานความเข้มของแสงสว่างได้จากกฎกระทรวงและประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
การตรวจวัดความเข้มของแสงสว่างในสถานประกอบการควรดำเนินการอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยใช้ เครื่องวัดแสง LUX LIGHT METER ที่ได้มาตรฐาน เช่น CIE 1931, ISO/CIE 10527 หรือเทียบเท่า การวัดจะแสดงผลเป็นหน่วยลักซ์ (lux) โดยต้องหาค่าเฉลี่ยจากการวัดทุก ๆ 2×2 ตารางเมตร เพื่อให้ได้ผลการตรวจวัดที่ถูกต้องและสามารถนำมาปรับปรุงแก้ไขให้มีความเข้มแสงสว่างที่เหมาะสมต่อไป
หากต้องการสอบเทียบ LIGHT METER ทำได้ที่ไหน
บริษัท คาปิตอล ลาบอราทอรี จำกัด มีความยินดีนำเสนอบริการ สอบเทียบเครื่องมือวัดแสง (Light Meter) ด้วยมาตรฐานระดับสูง เรานำเสนอการ สอบเทียบ LIGHT METER ด้วยเครื่องมือ Lux and Luminance Meter Calibration ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับในระดับสากล ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราสามารถให้บริการสอบเทียบเครื่องมือวัดแสงได้สูงสุดถึง 25,000 ลักซ์ หากท่านต้องการสอบเทียบเครื่องมือวัดแสงของท่าน เราพร้อมให้คำปรึกษาและรับสอบเทียบผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างเต็มความสามารถ มั่นใจได้ว่าท่านจะได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพ
สรุป
ในภาคอุตสาหกรรม เครื่องวัดแสง มีบทบาทสำคัญในการวัดและควบคุมคุณภาพแสงในสถานที่ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ต้องมีเครื่องมือวัดนี้ไว้ใช้งาน โดยจะต้องมีการวัดปริมาณของแสงเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงาน เช่น ทาสีผนังใหม่ เปลี่ยนหลอดไฟ หรือต่อเติมผนัง ฝา/เพดาน
เหตุผลที่เครื่องวัดแสงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในโรงงานอุตสาหกรรม คือการเลือกซื้อเครื่องมือวัดแสง (Lux Meter) มีความสำคัญในการให้ได้ผลการวัดที่เหมาะสม ดังนั้นต้องมีการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) อีกทั้งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการ สอบเทียบ LIGHT METER เครื่องมือวัดแสงให้ได้มาตรฐานทุกปี โดยห้องปฏิบัติการสอบเทียบสามารถสอบเทียบได้ และได้รับการรับรองมาตรฐาน ANAB สำหรับช่วงการวัด 1-20,000 lux และ 1-20,000 cd/m2
กิตติวงษ์ จันทุม เป็นวิศวกรที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปีในอุตสาหกรรมสอบเทียบเครื่องมือวัด เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสอบเทียบอุปกรณ์วัดต่างๆ เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดแรงดัน เครื่องวัดระดับเสียง และอื่นๆ กิตติวงษ์ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อรับรองความสามารถในการสอบเทียบตามมาตรฐานสากล