เครื่องสีข้าวเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในกระบวนการผลิตข้าวจากข้าวเปลือกไปเป็นข้าวสารที่พร้อมบริโภค ทั้งนี้เครื่องสีข้าวมีหลายประเภทและขนาด ตั้งแต่เครื่องสีข้าวขนาดเล็กที่ใช้ในครัวเรือน ไปจนถึงเครื่องสีข้าวขนาดใหญ่ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม การเลือกซื้อเครื่องสีข้าวที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของผู้ใช้งานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
การทำงานของเครื่องสีข้าวนั้นมีความหลากหลาย ตั้งแต่การคัดแยกสิ่งสกปรก การกะเทาะเปลือกข้าว การขัดขาว และการคัดแยกข้าวที่ได้ การเลือกซื้อเครื่องสีข้าวควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประสิทธิภาพในการทำงาน ความทนทาน และการบำรุงรักษา เพื่อให้ได้เครื่องสีข้าวที่มีคุณภาพและคุ้มค่ากับการลงทุน
ประเภทของเครื่องสีข้าว
เครื่องสีข้าวเป็นเครื่องจักรที่ใช้แปรรูปข้าวเปลือกให้เป็นข้าวสาร โดยสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและกำลังการผลิต
1. เครื่องสีข้าวใช้แรงงานคน
- เป็นเครื่องสีข้าวที่ใช้แรงงานคนในการหมุนลูกกะเทาะเปลือกข้าว
- ทำจากไม้ไผ่สานและพอกด้วยดินเหนียว
- เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือนหรือชุมชนเล็กๆ
2. เครื่องสีข้าวใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์
- มีระบบการผลิตครบถ้วน ตั้งแต่การคัดแยกสิ่งสกปรก กะเทาะเปลือกข้าว ขัดขาว และขัดมัน
- ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน
- มีหลายขนาดตามกำลังการผลิต
- ขนาดชุมชน : กำลังการผลิตไม่เกิน 10 ตันต่อวัน
- ขนาดเล็ก : กำลังการผลิต 10-40 ตันต่อวัน
- ขนาดกลาง : กำลังการผลิต 40-100 ตันต่อวัน
- ขนาดใหญ่ : กำลังการผลิต 100 ตันต่อวันขึ้นไป
3. เครื่องสีข้าว 2 ระบบ
- สามารถสีข้าวกล้องและข้าวขาวได้ในเครื่องเดียว
- มีระบบตะแกรง 6 เหลี่ยมที่ช่วยให้สีข้าวได้รวดเร็วและสะอาด
- ใช้มอเตอร์ขนาด 3 แรงม้า และใช้ไฟบ้าน 5 แอมป์
4. เครื่องสีข้าวแบบอัตโนมัติ
- มีระบบแยกข้าวกล้อง ข้าวสาร และข้าวเปลือก รวมถึงแยกรำข้าว ปลายข้าว และแกลบในตัว
- มีไซโคลนดักแกลบและรำลงถุง
- สามารถปรับความขาวของข้าวได้ตามต้องการ
หลักการทำงานของเครื่องสีข้าว
1. เครื่องสีข้าวใช้แรงงานคน
- ใช้แรงงานคนในการหมุนลูกกะเทาะเปลือกข้าว
- ทำจากไม้ไผ่สานและพอกด้วยดินเหนียว
- มีลูกกะเทาะ 2 ลูก โดยลูกล่างจะอยู่คงที่และลูกบนจะหมุนด้วยแรงคน
- ข้าวที่ได้จะเป็นข้าวกล้อง เนื่องจากไม่มีการขัดขาว.
2. เครื่องสีข้าวใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์
- ประกอบด้วยระบบการผลิตครบถ้วน: คัดแยกสิ่งสกปรก กะเทาะเปลือกข้าว ขัดขาว และขัดมัน
- เริ่มจากการคัดแยกสิ่งสกปรก จากนั้นกะเทาะเปลือกข้าวด้วยลูกหินหรือลูกยาง
- ใช้ลูกหินขัดขาวแบบหยาบและละเอียด จากนั้นขัดมันด้วยตะแกรงเหล็ก
- ข้าวขาวที่ได้สามารถคัดแยกข้าวเสียออกโดยใช้เครื่องยิงสี.
3. เครื่องสีข้าว 2 ระบบ
- สามารถสีข้าวกล้องและข้าวขาวได้ในเครื่องเดียว
- ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2.2 กิโลวัตต์
- มีระบบตะแกรงที่ช่วยให้สีข้าวได้รวดเร็วและสะอาด
- ข้าวที่ได้สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นข้าวกล้องหรือข้าวขาว.
4. เครื่องสีข้าวแบบอัตโนมัติ
- มีระบบแยกข้าวกล้อง ข้าวสาร และข้าวเปลือก รวมถึงแยกรำข้าว ปลายข้าว และแกลบในตัว
- ใช้กระบวนการหลายขั้นตอน: คัดแยกสิ่งสกปรก กะเทาะเปลือกข้าว ขัดขาว ขัดมัน และคัดแยกข้าวเสีย
- มีไซโคลนดักแกลบและรำลงถุง และสามารถปรับความขาวของข้าวได้ตามต้องการ
ข้อดีของเครื่องสีข้าวแต่ละประเภท
1. เครื่องสีข้าวใช้แรงงานคน
ข้อดี : ใช้ต้นทุนต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือนหรือชุมชนเล็ก ๆ ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าหรือเชื้อเพลิง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
2. เครื่องสีข้าวใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์
ข้อดี
- ประสิทธิภาพสูง : สามารถสีข้าวได้ปริมาณมากในเวลาสั้น ๆ
- คุณภาพข้าวสูง : ข้าวที่ได้มีความขาวและสะอาด เนื่องจากมีระบบการขัดขาวและขัดมันที่มีประสิทธิภาพ
- การใช้งานง่าย : มีระบบอัตโนมัติที่ช่วยลดแรงงานคนและเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
3. เครื่องสีข้าว 2 ระบบ
ข้อดี
- ความยืดหยุ่น : สามารถสีข้าวกล้องและข้าวขาวได้ในเครื่องเดียว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกประเภทของข้าวที่ต้องการได้
- ประหยัดพื้นที่ : ไม่ต้องมีเครื่องจักรหลายเครื่องในการสีข้าวประเภทต่าง ๆ
4. เครื่องสีข้าวแบบอัตโนมัติ
ข้อดี
- ประสิทธิภาพสูง : สามารถสีข้าวได้ปริมาณมากในเวลาสั้น ๆ สูงสุดถึง 100 ตันต่อวัน
- ลดการสูญเสีย : ลดอัตราการแตกหักของเมล็ดข้าวและสามารถกำจัดสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การควบคุมคุณภาพ : สามารถปรับระดับการขัดขาวและขัดมันตามความต้องการของลูกค้า ทำให้ข้าวที่ได้มีคุณภาพสูง
- ลดแรงงาน : ใช้งานง่ายและต้องการแรงงานน้อยในการควบคุมและดูแล
วิธีการเลือกซื้อเครื่องสีข้าว
ขนาดและกำลังการผลิต
- ขนาดเล็ก : เหมาะสำหรับครัวเรือนหรือชุมชน มีกำลังการผลิตประมาณ 100-200 กิโลกรัมต่อชั่วโมง
- ขนาดกลาง : เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก มีกำลังการผลิต 40-100 ตันต่อวัน
- ขนาดใหญ่ : เหมาะสำหรับโรงสีข้าวขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิตมากกว่า 100 ตันต่อวัน
วัสดุและความทนทาน
- วัสดุ : ควรเลือกเครื่องที่ทำจากสแตนเลสหรือวัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานหนัก
- การบำรุงรักษา : ควรเลือกเครื่องที่สามารถหาอะไหล่ได้ง่ายและมีการบำรุงรักษาที่ไม่ซับซ้อน
การรับประกันและบริการหลังการขาย
- การรับประกัน : ควรเลือกเครื่องที่มีการรับประกันอย่างน้อย 1 ปี ทั้งในส่วนของโครงสร้างและมอเตอร์
- บริการหลังการขาย : ควรมีบริการติดตั้งและสอนการใช้งาน รวมถึงบริการซ่อมแซมและเปลี่ยนอะไหล่ที่สะดวกและรวดเร็ว
การบำรุงรักษาเครื่องสีข้าว ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
การบำรุงรักษาเครื่องสีข้าว เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน ดังนี้
- ทำความสะอาดข้าวเปลือกก่อนการสี : การทำความสะอาดข้าวเปลือกช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกและฝุ่นที่อาจทำให้เครื่องเสียหายได้
- ตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ : ชิ้นส่วนเช่น ตะแกรงหมุนและลูกกลิ้งขัดเงามีแนวโน้มที่จะสึกหรอได้ง่าย ควรตรวจสอบและเปลี่ยนเมื่อจำเป็น
- หล่อลื่นชิ้นส่วนเคลื่อนไหว : การหล่อลื่นช่วยลดการเสียดสีและการสึกหรอของชิ้นส่วนเคลื่อนไหวต่าง ๆ
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและมอเตอร์ : ตรวจสอบการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและระบบสายพานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาที่อาจทำให้เครื่องหยุดทำงาน
- การทำความสะอาดเครื่อง : ควรทำความสะอาดเครื่องสีข้าวหลังการใช้งานทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของข้าวเปลือกและฝุ่นที่อาจทำให้เครื่องเสียหาย
สรุป
เครื่องสีข้าวเป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการแปรรูปข้าวเปลือกให้เป็นข้าวสารที่พร้อมบริโภค การเลือกซื้อเครื่องสีข้าวที่เหมาะสมควรพิจารณาจากประเภทและขนาดของเครื่อง รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานและความทนทาน การเลือกเครื่องสีข้าวที่มีคุณภาพจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตข้าวและลดต้นทุนในการแปรรูปข้าวเปลือก นอกจากนี้การดูแลรักษาเครื่องสีข้าวอย่างถูกวิธียังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการใช้งาน การลงทุนในเครื่องสีข้าวที่ดีจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและมีประโยชน์ในระยะยาว
กิตติวงษ์ จันทุม เป็นวิศวกรที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปีในอุตสาหกรรมสอบเทียบเครื่องมือวัด เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสอบเทียบอุปกรณ์วัดต่างๆ เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดแรงดัน เครื่องวัดระดับเสียง และอื่นๆ กิตติวงษ์ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อรับรองความสามารถในการสอบเทียบตามมาตรฐานสากล