CALIBRATION ISO/IEC 17025 เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดเกี่ยวกับความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบและสอบเทียบ ครอบคลุมระบบบริหารคุณภาพห้องปฏิบัติการ ข้อกำหนดด้านบริการ และข้อกำหนดด้านวิชาการ รวมทั้งคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อกระบวนการสอบเทียบ เช่นเดียวกับเครื่องมือวัดที่ได้รับการสอบเทียบตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 นั้นจะมีคุณภาพที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลและได้รับการยอมรับในตลาดนานาชาติ การทดสอบเทียบตามมาตรฐานนี้ช่วยลดต้นทุนทั้งของผู้ส่งออกและผู้นำเข้า ทำให้ผู้ผลิตที่ส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศที่ได้รับการรับรองด้านการทดสอบนี้ไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบสินค้าซ้ำในประเทศคู่ค้า ซึ่งเป็นประโยชน์ที่สำคัญทั้งทางเศรษฐกิจและธุรกิจสากล
ระบบมาตรฐาน CALIBRATION ISO/IEC 17025 คืออะไร?
ISO/IEC 17025 คือ มาตรฐานสากลที่ได้รับการพัฒนาโดย ISO (THE INTERNATIONAL ORGANIZATION FOR STANDARDIZATION) และ IEC (THE INTERNATIONAL ELECTROTECHNICAL COMMISSION) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ร่วมกันกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการวัดและทดสอบ มาตรฐานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ค่าวัดถูกต้องจากหน่วยมูลฐาน (SI UNIT) ถูกถ่ายทอดไปยังเครื่องมือวัดที่ใช้ในการทดสอบของผู้ใช้ทั่วไป
ISO/IEC 17025, หรือตัวย่อ มอก.17025 เป็นข้อกำหนดทั่วไปที่กำหนดถึงความสามารถของห้องปฏิบัติการในการดำเนินการทดสอบและสอบเทียบ ISO 17025 ความสามารถของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองนั้นเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และนำมาใช้ในตลาดที่ต้องการความถูกต้องและความน่าเชื่อถือในการทดสอบและสอบเทียบ การปฏิบัติตามมาตรฐานนี้ไม่เพียงเพื่อเพิ่มคุณภาพของผลการทดสอบเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความขัดแย้งและเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการนำสินค้าไปยังตลาดสากล
ความสำคัญของระบบ ISO/IEC 17025
- ระบบมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเป็นเกณฑ์สำหรับห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการสอบเทียบ เพื่อให้เห็นได้ชัดว่าห้องปฏิบัติการดำเนินงานโดยมีระบบคุณภาพที่เข้มงวด มีความสามารถทางวิชาการ และมีผลการทดสอบหรือสอบเทียบที่เป็นที่เชื่อถือ
- ระบบนี้มีหลายบทบาทที่สำคัญ ได้แก่การให้เป็นเกณฑ์สำหรับการรับรองความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบและสอบเทียบจากหน่วยรับรอง การใช้ในการยืนยันและยอมรับความสามารถของห้องปฏิบัติการโดยผู้ใช้บริการหรือองค์กรที่มีอำนาจตามกฎหมาย
- ห้องปฏิบัติการทดสอบและสอบเทียบที่ได้รับการรับรอง ถือเป็นหลักฐานว่าการดำเนินการด้านระบบคุณภาพในกิจกรรมการทดสอบและสอบเทียบได้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 9001. การเป็นไปตามมาตรฐานนี้ช่วยให้มั่นใจว่ากระบวนการทดสอบและสอบเทียบนี้ได้รับการจัดทำและดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
ประโยชน์ของระบบ ISO/IEC 17025
การได้รับการรับรองตามมาตรฐาน CALIBRATION ISO/IEC 17025 สำหรับห้องปฏิบัติการไม่เพียงเพียงแค่เป็นการยอมรับอย่างเป็นทางการเรื่องความสามารถ แต่ CALIBRATION SERVICE ยังสร้างความมั่นใจในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในหลายด้าน ดังนี้
- เพิ่มขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการให้ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มีการยอมรับที่กว้างขวางทั้งภายในและนอกประเทศ ซึ่งช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความไว้วางใจในความสามารถของห้องปฏิบัติการนั้น ๆ
- เสริมสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความเชื่อถือในรายงานผลการทดสอบหรือผลการสอบเทียบที่มีความเท่าเทียมทางด้านวิทยาศาสตร์ ทำให้ผู้ใช้บริการได้รับผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับมาตรฐาน
- การยอมรับในกลุ่มประเทศสมาชิก APLAC และ ILAC เพื่อความเทียบเท่าทางด้านความสามารถทางด้านวิชาการ ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือในระดับทั้งประเทศและระหว่างประเทศ
- ลดการกีดกันทางการค้า ที่มีก่อให้เกิดจากการทดสอบและการตรวจซ้ำซ้อนจากประเทศคู่ค้า ซึ่งทำให้กระบวนการค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ISO/IEC 17025 ห้องปฏิบัติการ สอบเทียบมาตรฐานสากล
การรับรองห้องปฏิบัติการ ตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ไม่เพียงแค่เป็นการยอมรับอย่างเป็นทางการเรื่องความสามารถ แต่ยังสร้างความมั่นใจในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในหลายด้าน ดังนี้
- ระบบคุณภาพและการบริหารงานที่เป็นที่ยอมรับ ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองตาม ISO/IEC 17025 ต้องมีการจัดระบบที่เข้มงวดและตระหนักถึงคุณภาพของการทำงานทุกขั้นตอน
- บุคลากรที่มีความชำนาญในการวิเคราะห์ทดสอบ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมความน่าเชื่อถือในผลลัพธ์ทดสอบ โดยความเชี่ยวชาญที่แน่นอนนี้เป็นกุญแจที่ทำให้การทดสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- การใช้เครื่องมือที่มีความแม่นยำ เพื่อประมาณค่าความไม่แน่นอนของการวัด มีผลต่อคุณภาพของข้อมูลทดสอบที่ได้ การให้ความสำคัญแก่การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ห้องปฏิบัติการต้องคำนึงถึง
- การสร้างสภาพแวดล้อมและสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการสอบเทียบ มีผลต่อความถูกต้องและเชื่อถือของผลลัพธ์ทดสอบ การคำนึงถึงข้อกำหนดในการสอบเทียบจึงเป็นส่วนสำคัญ
- การจัดการตัวอย่างที่เหมาะสมตั้งแต่ขั้นตอนการรับ ขนส่ง ปฏิบัติต่อตัวอย่าง ไปจนถึงการจัดเก็บรักษา มีผลทำให้การทดสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันความชำรุดเสียหาย หรือ สูญหายของตัวอย่าง
- การตรวจสอบความใช้ได้ของวิธี ความสอบกลับได้ มีผลต่อความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์
- ความสามารถทางวิชาการ การควบคุมเอกสาร การเก็บบันทึก และการรายงานผลต้องอยู่ในระดับที่ถูกต้องชัดเจน และไม่คลุมเครือ
การเตรียมความพร้อมเพื่อขอรับรองระบบ ISO/IEC 17025
การเตรียมความพร้อมเพื่อขอ CALIBRATION ISO/IEC 17025 เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและสำคัญที่ทุกห้องปฏิบัติการควรทำเพื่อให้การทดสอบและวัดผลผลิตภัณฑ์หรือบริการมีความน่าเชื่อถือและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ด้วยขั้นตอนทั้งหมด 9 ขั้นตอน ที่จะช่วยให้ห้องปฏิบัติการได้รับการรับรองความสามารถตามมาตรฐานอย่างมีประสิทธิภาพ
- ศึกษาข้อกำหนด ISO/IEC 17025 และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อทำความเข้าใจลึกซึ้งในมาตรฐานและการปฏิบัติที่ต้องทำ เนื่องจากความเข้าใจที่ดีในข้อกำหนดเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการจัดทำระบบคุณภาพ
- การให้ความเห็นชอบในการจัดทำระบบคุณภาพของห้องปฏิบัติการจากผู้บริหาร ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญเนื่องจากมีผลต่อการดำเนินงานทั้งหมดของห้องปฏิบัติการ
- การแต่งตั้งคณะทำงานที่จะดำเนินการและเฝ้าระวังระบบคุณภาพของห้องปฏิบัติการ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐาน
- การกำหนดนโยบายวางแผนสำหรับการจัดทำระบบคุณภาพของห้องปฏิบัติการให้สอดคล้องตามมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานเป็นไปตามที่กำหนดไว้
- ขั้นตอนถัดไปคือการปฏิบัติตามระบบคุณภาพของห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการให้ความรับผิดชอบและปฏิบัติตามที่กำหนดไว้
- การตรวจติดตามคุณภาพภายใน เพื่อให้มั่นใจว่าระบบคุณภาพเป็นไปตามข้อกำหนด และขั้นตอนที่ 8 คือการแก้ไขข้อบกพร่องที่พบจากการตรวจติดตามคุณภาพภายใน
- ขั้นสุดท้ายคือการประชุมทบทวนการบริหารงานของห้องปฏิบัติการ และมีการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบคุณภาพของห้องปฏิบัติการตามความต้องการ
- การติดต่อหน่วยงานรับรองห้องปฏิบัติการเพื่อขอรับการรับรอง ทำให้การเตรียมความพร้อมนี้เป็นกระบวนการที่ครอบคลุมทุกรายละเอียดและเน้นความมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานของห้องปฏิบัติการอย่างทั่วถึง
กระบวนการให้การรับรองระบบมาตรฐาน ISO/IEC 17025
การให้การรับรองระบบมาตรฐาน ISO/IEC 17025 สำหรับห้องปฏิบัติการของสถาบันการรับรองมีขั้นตอนทั้งหมดที่ต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าการทดสอบและวัดผลผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นสอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนดไว้ ขั้นตอนเหล่านี้มีดังนี้
- การรับคำขอจากห้องปฏิบัติการที่ต้องการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025
- การทำการตรวจสอบเบื้องต้นเพื่อประเมินความพร้อมในการขอรับรองของห้องปฏิบัติการนั้น ๆ
- การตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบและวัดผลผลิตภัณฑ์หรือบริการ
- การตรวจสอบห้องปฏิบัติการตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน เพื่อประเมินความเหมาะสมในการรับรอง
- การจัดทำรายงานที่สรุปผลการตรวจประเมินและนำเสนอให้คณะอนุกรรมการ (ตามสาขา) พิจารณาในการรับรอง
- การเสนอรายงานให้คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพิจารณาในการรับรอง
- การจัดทำใบรับรองสำหรับห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรอง
- การเผยแพร่รายชื่อของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองในสื่อต่าง ๆ
- การตรวจติดตามผลการรับรองความสามารถของห้องปฏิบัติการอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี
- การตรวจประเมินใหม่ทุก 3 ปีเพื่อทำให้แน่ใจว่าห้องปฏิบัติการยังคงทำตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างถูกต้องและมีความพร้อมในการรับรองอยู่เสมอ
บทสรุป
CALIBRATION ISO/IEC 17025 เป็นสิ่งที่สำคัญในการสนับสนุนคุณภาพและประสิทธิภาพในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์และเทคนิค สร้างความมั่นใจในผลการตรวจสอบและสอบเทียบ รวมถึงการสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ ทั้งยังเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถพัฒนาและปรับปรุงตัวเองให้มีความแข็งแกร่งในตลาดแข่งขันในยุคที่คุณภาพและประสิทธิภาพระบบมีความสำคัญอย่างมาก การรับรองนี้นั้นไม่เพียงเพียงแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของการดำเนินงานสอบเทียบที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการมั่นใจทั้งด้านคุณภาพและผลการสอบเทียบ (CERTIFICATE) ที่น่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
กิตติวงษ์ จันทุม เป็นวิศวกรที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปีในอุตสาหกรรมสอบเทียบเครื่องมือวัด เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสอบเทียบอุปกรณ์วัดต่างๆ เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดแรงดัน เครื่องวัดระดับเสียง และอื่นๆ กิตติวงษ์ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อรับรองความสามารถในการสอบเทียบตามมาตรฐานสากล