สอบเทียบ DIGITAL MULTIMETER ด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน

สอบเทียบ DIGITAL MULTIMETER

DIGITAL MULTIMETER หรือ มัลติมิเตอร์ดิจิตอล ได้รับการพัฒนามาจากดิจิตอลโวลท์มิเตอร์ที่ใช้เพียงในการวัดค่าโวลท์เท่านั้น การพัฒนานี้ได้เริ่มต้นตั้งแต่กลางปีคริสต์ศักราช 1950 และมีความสามารถที่หลากหลายมากขึ้นในปัจจุบัน มัลติมิเตอร์ดิจิตอลทำให้นักมาตรวิทยามีประสิทธิภาพในการวัดที่มากขึ้น ด้วยช่วงวัดที่หลากหลายและฟังก์ชันการทำงานที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเที่ยงตรงสูงขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน ทำให้เป็นการท้าทายต่อนักมาตรวิทยาที่ต้องการการเรียนรู้และการทดสอบ

การสอบเทียบ DIGITAL MULTIMETER ก็มีความซับซ้อนน้อยลงเมื่อมีการใช้มัลติฟังก์ชันคาลิเบรเตอร์สมัยใหม่เป็นมาตรฐานในการทำงาน ในอดีตนักมาตรวิทยาต้องใช้มาตรฐานฟังก์ชันเดี่ยว เช่น DC VOLT และ AMP ซึ่งทำให้ความซับซ้อนในการควบคุมการวัดลดลง และวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับสอบเทียบ DIGITAL MULTIMETER ให้มากขึ้นพร้อมแล้วเราไปดูรายละเอียดต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กันได้เลย

สอบเทียบ DIGITAL MULTIMETER คืออะไร

การสอบเทียบ DIGITAL MULTIMETER เป็นกระบวนการที่สำคัญในการตรวจสอบความแม่นยำและเชื่อถือได้ของเครื่องมือวัดที่ใช้ในงานต่าง ๆ โดยการเปรียบเทียบค่าที่ได้จากเครื่องมือกับค่ามาตรฐานที่ได้จากห้องแล็บ เป็นวิธีที่ช่วยให้แน่ใจได้ว่าเครื่องมือวัดมีความแม่นยำและเชื่อถือได้ตามที่กำหนดในประเทศไทย มีกระบวนการสอบเทียบที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 และกระบวนการที่ยังไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลดังกล่าวบริษัทคาปิตอล ลาบอราโทรี จำกัด ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเทียบในหลายสาขา เพื่อนำมาเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่ต้องการส่งเครื่องมือเพื่อทำการสอบเทียบ

ขั้นตอนการสอบเทียบนี้มีการเปรียบเทียบค่าที่ได้จาก DIGITAL MULTIMETER กับค่ามาตรฐานที่มีความแม่นยำที่ได้รับการรับรองข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนการสอบเทียบนี้สามารถช่วยให้ผู้ใช้เครื่องมือมั่นใจในความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้ มีการสอบเทียบทั้งแบบได้รับการรับรองมาตรฐานสากลและแบบที่ยังไม่ได้รับการรับรอง ซึ่งช่วยให้ครอบคลุมทุกรูปแบบของเครื่องมือที่อาจมีในตลาด นอกจากนี้ข้อมูลเหล่านี้ยังเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการเลือกบริการสอบเทียบ PROCESS CALIBRATOR ที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขา

วิธีใช้งาน DIGITAL MULTIMETER

วิธีใช้งาน DIGITAL MULTIMETER

DIGITAL MULTIMETER การใช้งานนั้น มีวิธีใช้งานง่าย ๆ ดังนี้

  1. เปิดเครื่อง

เริ่มต้นโดยการกดปุ่มเปิด-ปิดเพื่อเปิดเครื่อง DMM ของคุณขึ้น ส่วนมากนี้ DMM ทำงานด้วยการใช้แบตเตอรี่หรือไฟ AC ดังนั้นหากไม่มีการเปิดขึ้นมา ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่เป็นอย่างดีหรือไม่ หรือตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟว่าทำงานถูกต้องหรือไม่

  1. เลือกโหมดและช่วง

เลือกพารามิเตอร์ที่ต้องการวัดและช่วงที่เหมาะสม โดยใช้ปุ่มหมุนหรือสวิตช์ของ DMM ของคุณ บางรุ่นอาจมีการสลับช่วงโดยอัตโนมัติ หากต้องการเปลี่ยนช่วงด้วยตนเอง คุณสามารถปรับช่วงที่เหมาะสมได้โดยการทดลองวัดซ้ำๆ โปรดทราบว่าบาง DMM มีโหมดที่ตรวจจับแรงดันไฟ AC และ DC ได้โดยอัตโนมัติ

  1. ต่อสายทดสอบ

เชื่อมต่อสายวัดหรือคลิปกับขั้วของ DMM ของคุณและเริ่มทำการวัด ควรระมัดระวังเนื่องจากสายทดสอบสีแดงมักแตกต่างกันตามประการที่คุณต้องการวัด เช่นกระแส แรงดันไฟ หรือความต้านทาน ปรับค่าศูนย์ก่อนเพื่อให้การวัดเป็นไปอย่างแม่นยำ

เมื่อต้องเลือก DIGITAL MULTIMETER มาใช้งานสักเครื่องควรพิจารณาจากอะไรบ้าง

ความปลอดภัย (SAFETY)

ปัจจุบัน, การเลือกใช้ DIGITAL MULTIMETER (DMM) นั้นหลายยี่ห้อมีให้เลือกหลายตัวในท้องตลาด เมื่อพูดถึงความปลอดภัยที่เป็นประเด็นหลัก ควรให้ความสำคัญกับ DMM ที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยที่มี CAT (CATEGORY) เพื่อให้มั่นใจในการใช้งานอย่างปลอดภัยที่สุด อย่างไรก็ตามมีไม่กี่ยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐานนี้อย่างเข้มงวด

ปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดระดับ CAT ของ DMM รวมถึงการออกแบบวงจร ขนาดของเครื่อง และโครงสร้างที่มีการป้องกันการระเบิดในการใช้งาน ดังนั้น DMM ที่เหมาะสมควรมีขนาดที่พอดี ไม่ใหญ่เกินไป ที่สามารถผ่านการทดสอบระบบไฟแรงสูง (HIGH VOLTAGE) และการอาร์ค (ARC) อย่างปลอดภัย

ความสำคัญของความปลอดภัยนี้มีตัวหนังสือที่ชัดเจน การเลือกใช้ DMM ที่ปรับปรุงและผ่านการทดสอบที่มีมาตรฐานสูงจะช่วยลดความเสี่ยงในการใช้งาน ถึงแม้ขนาดที่เล็กและบางของ DMM อาจจะดูน่าสนใจ แต่ควรระมัดระวังในการให้ความสำคัญกับความปลอดภัย นอกจากนี้การให้ความสำคัญในการพกพาที่สะดวกและเอื้อมสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญ ในที่สุดความปลอดภัยคือหลักการสำคัญที่ไม่ควรละเลยเมื่อเลือกใช้ DMM ในการทำงาน

การใช้งาน (APPLICATIONS)

การใช้งานของ DIGITAL MULTIMETER (DMM) มีความหลากหลายและเกิดประโยชน์ในหลายแดนของวิชาชีพและการปฏิบัติงาน. อย่างไรก็ตามไม่ทุกรุ่นของ DMM ถือว่าเป็นเท่าเทียมกัน และการเลือกใช้ควรพิจารณาแอปพลิเคชันที่เฉพาะเจาะจงและความต้องการของงานต่าง ๆ

  1. งานอินเวอร์เตอร์ (INVERTER) และ PULSE WIDTH MODULATION (PWM)

สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้ากระแสสลับที่มีรูปคลื่นไม่เป็นคลื่นไซน์ (SINE WAVE) ควรเลือก DMM ที่สามารถวัดรูปร่างคลื่นได้ทุกรูปแบบ แต่ต้องระมัดระวังว่าบาง DMM อาจมีปัญหาในการวัดค่าความถี่ต่ำ เช่นในกรณีของ PULSE WIDTH MODULATION (PWM) การเลือกใช้ DMM ที่มีลักษณะกรองความถี่ต่ำ (LOW PASS FILTER) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อประสิทธิภาพในงานนี้

  1. การทำงานทางวิทยาศาสตร์และวิจัย:

สำหรับนักมาตรวิทยาที่ทำงานในห้องสอบเทียบ DMM ที่มีจำนวน DIGITS หรือ COUNTS สูง และค่าความเสถียร (STABILITY) ดี เป็นสิ่งสำคัญ หน้าที่ของการทำงานในด้านนี้มักต้องการความแม่นยำและเชื่อถือได้ในการวัด

  1. งานการซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้า

สำหรับช่างไฟฟ้าที่ต้องการตรวจสอบแรงดันผีหลอก (GHOST VOLTAGE) หรือการวัดหม้อแปลง ไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน DMM ที่มีลักษณะ LOW INPUT IMPEDANCE (LO Z) เป็นที่น่าสนใจ เนื่องจากจะทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบ

  1. การพกพาและใช้ในสถานที่

สำหรับการใช้งานที่ต้องการความสะดวกในการพกพา DMM ที่มีขนาดเล็กและบางพอดีเพื่อความสะดวกในการใช้งานนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ

หลักเศรษฐศาสตร์

การเลือกใช้ MULTIMETER ในทางเศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีผลต่อการใช้งานในสายงานต่าง ๆ ซึ่งหลายคนมักจะตัดสินใจในการเลือกซื้อ MULTIMETER โดยใช้หลักการทางเศรษฐศาสตร์มาก่อนทั้งหมด. จะเริ่มต้นด้วยการยกตัวอย่างว่าสำหรับหัวข้อนี้ MULTIMETER มักเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้กันมากที่สุดในงานวิศวกรรม

เมื่อพูดถึงการเลือก MULTIMETER ตั้งแต่แรกส่วนมากท่านจะหันมองที่คุณสมบัติของมัน และความจำเป็นในทางวิศวกรรมและความปลอดภัย. ไม่ควรทิ้งท้ายหากไปเลือกตามราคา เพราะในปัจจุบันราคาของ MULTIMETER ทุกยี่ห้อมีความแตกต่างน้อยมาก หากท่านยังไม่ต้องการให้แบรนด์ครองตลาดหรือต้องการเลือกตัวเครื่องที่เหมาะสมกับงานมากที่สุด ควรจะใส่ใจที่ปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญกว่า หรือตรงกันข้าม ควรพิจารณาตามเหตุผลและคุณสมบัติที่สอดคล้องกับความต้องการ

RECALIBRATE ดิจิตอลมัลติมิเตอร์

มุมมองต่อการซ่อมและการ RECALIBRATE ของดิจิตอลมัลติมิเตอร์

การเลือกซื้อดิจิตอลมัลติมิเตอร์ที่สามารถซ่อมและ RECALIBRATE ในประเทศไทยเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ การมีวงจรสำหรับการซ่อมบำรุงเป็นเครื่องมือที่ดีในการดูแลรักษาความพร้อมในการใช้งานของเครื่องสอบเทียบ LUX METER และถ้ามีความสะดวกในการสอบเทียบหลังจากใช้งานไป 1 ปี นั้นเป็นเรื่องที่ดีอีกด้วย

ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ที่มีคุณสมบัติที่สามารถ RECALIBRATE และ ADJUST ได้ถ้าตกสเปค มีความสำคัญเพราะมีการใช้งานที่ต่อเนื่องอาจทำให้เครื่องตกสเปคได้ การมีขั้นตอนการปรับเครื่องที่เปิดเผยและเข้าใจง่ายเป็นจุดเด่นเสมอ นอกจากนี้การสามารถ ADJUST โดยไม่ต้องถอดฝาหน้าหรือฝาหลัง (CLOSED CASE CALIBRATION) ทำให้การ RECALIBRATE เป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกมากยิ่ง

ความทนทานและความแข็งแรงของดิจิตอลมัลติมิเตอร์

ในการพิจารณาความทนทานและความแข็งแรงของดิจิตอลมัลติมิเตอร์ เราสามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ซึ่งกล่าวถึงความทนทานทางไฟฟ้าและความทนทานทางกายภาพ

  1. ความทนทานทางไฟฟ้า

เราควรคำนึงถึงดิจิตอลมัลติมิเตอร์ที่ถูกออกแบบมาในทางที่สามารถทนต่อกระแสและแรงดันเกินได้ สิ่งนี้สำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากกรณีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด, เช่น กระซิบไฟหรือไฟฟ้าช็อต

  1. ความทนทานทางกายภาพ

ด้านความแข็งแรงของเครื่องมัลติมิเตอร์ เราควรสนใจถึงความทนทานทางกายภาพของเครื่อง ความทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่อาจมีการกระทำที่น่าท้อแท้ ตกหลุม หรือสะเทือนที่อาจส่งผลกระทบต่อเครื่องมัลติมิเตอร์

การเลือกดิจิตอลมัลติมิเตอร์ที่มีความทนทานทั้งทางไฟฟ้าและทางกายภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ การอำนวยความสะดวกในการทนต่อสภาพแวดล้อมและสภาพการใช้งานที่หลากหลาย จะทำให้เครื่องมัลติมิเตอร์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและประสิทธิภาพที่สูง

สรุป

การสอบเทียบ DIGITAL MULTIMETER เป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อความเชื่อถือของเครื่องมือนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในโรงงานผลิต การทดสอบสินค้า หรือการวิเคราะห์ต่าง ๆ เนื่องจากมีความสำคัญในการเลือกใช้เครื่องวัดที่เหมาะสม เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และความถูกต้องในการวัด สำหรับการสอบเทียบเครื่องวัดดิจิตอล เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น การเลือกใช้เครื่องมือมาตรฐานอ้างอิง ห้องปฏิบัติการสอบเทียบ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการสอบเทียบ และวิธีการสอบเทียบที่ถูกต้อง

การใช้เครื่องมือมาตรฐานอ้างอิงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเครื่องมือเหล่านี้มักมีความแม่นยำสูงและได้มาตรฐานอย่างเชื่อถือได้ เมื่อนำมาใช้ในการสอบเทียบ เราจะได้ผลลัพธ์ที่มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การมีห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่เหมาะสม เป็นเรื่องสำคัญอีกด้วย เพราะจะสามารถจำกัดองค์ประกอบที่อาจส่งผลกระทบต่อการสอบเทียบ เช่น การควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และความดันอากาศ ในห้องปฏิบัติการ การเลือกบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการสอบเทียบก็เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากจะมีผลต่อความแม่นยำและเชื่อถือของการสอบเทียบ การใช้วิธีการสอบเทียบที่ถูกต้องจะเสริมสร้างความเชื่อถือในผลลัพธ์ที่ได้ เช่นการใช้เทคนิคที่เชื่อถือได้ และการทำการสอบเทียบในเงื่อนไขที่ควบคุมอย่างถูกต้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความน่าสนใจ