โซดาไฟ คืออะไรมีประโยชน์อย่างไรในอุตสาหกรรมไทย

โซดาไฟ

โซดาไฟ หรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ (SODIUM HYDROXIDE) เป็นสารเคมีที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดี เนื่องจากเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหลายชนิด อย่างไรก็ตาม โซดาไฟมีประโยชน์มากกว่าการใช้งานในบ้านเท่านั้น แต่ยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อีกด้วย นอกจากนี้แวดวงอุตสาหกรรมไทยนำโซดาไฟไปใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง เรามีคำตอบพร้อมแนวทางการใช้งานโซดาไฟที่ถูกวิธีรวมถึงข้อควรระวังในการใช้งานโซดาไฟมาฝาก

ทำความรู้จักกับโซดาไฟ

โซดาไฟ หรือที่เรียกกันทางเคมีว่า โซเดียมไฮดรอกไซด์ (SODIUM HYDROXIDE – NAOH) เป็นสารเคมีประเภทเบสแก่ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง มีลักษณะเป็นของแข็งสีขาว อาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เกล็ด เม็ด หรือแผ่น โซดาไฟไม่มีกลิ่น แต่เมื่อสัมผัสกับผิวหนังจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนและไหม้อย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังเป็นสารที่สามารถดูดซับความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อละลายในน้ำจะปลดปล่อยความร้อนออกมา

ในชีวิตประจำวัน โซดาไฟถูกนำมาใช้งานในการล้างท่อและทำความสะอาดท่อระบายน้ำในบ้านเพื่อแก้ปัญหาท่อตัน อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว สารเคมีชนิดนี้ยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เนื่องจากคุณสมบัติความเป็นด่างสูงของโซดาไฟ

โซดาไฟถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสบู่ ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ อุตสาหกรรมกระดาษ กระดาษแก้ว เส้นใย อะลูมิเนียม และปิโตรเลียม แม้กระทั่งในอุตสาหกรรมอาหารก็สามารถนำโซดาไฟมาใช้ประโยชน์ได้ ด้วยคุณสมบัติพิเศษของโซดาไฟที่เป็นสารเคมีด่างแก่ จึงทำให้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อหลากหลายอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม การใช้งานโซดาไฟจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างยิ่งเวลาใช้กำจัดสารเคมีต่างๆเช่น ซีเซียม-137 หรืออื่นๆ เนื่องจากเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง หากสัมผัสโดนผิวหนังอาจทำให้เกิดอาการไหม้รุนแรงได้ ดังนั้น ผู้ใช้งานควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

โซดาไฟ มีกี่ชนิด

โซดาไฟสามารถแบ่งออกได้เป็นกี่ชนิด

โซดาไฟ หรือที่เรียกกันว่า โซเดียมไฮดรอกไซด์ (SODIUM HYDROXIDE) เป็นสารเคมีที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมหลายประเภท โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้

  1. โซดาไฟชนิดสารละลาย โซดาไฟชนิดสารละลายมีลักษณะเป็นของเหลวสีใส ซึ่งจะมีความเข้มข้นที่แตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปแล้วจะพบในความเข้มข้นประมาณ 32% หรือ 50% โซดาไฟชนิดสารละลายนี้มักจะถูกนำไปใช้งานในกระบวนการต่าง ๆ ทางอุตสาหกรรม เช่น การผลิตสบู่ การฟอกขาว การถนอมอาหาร และการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น
  2. โซดาไฟชนิดแข็ง โซดาไฟชนิดแข็งจะอยู่ในรูปแบบของเม็ด เกล็ด หรือผง และมีความเข้มข้นสูงมากประมาณ 98% ถึง 99% โซดาไฟแบบแข็งนี้มักจะถูกนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น การผลิตพลาสติก สี ยาง และสารเคมีอื่น ๆ นอกจากนี้ยังใช้ในการกำจัดสิ่งสกปรก การล้างท่อระบายน้ำ และการบำบัดน้ำเสียด้วยเช่นกัน

โซดาไฟ ผลิตอย่างไร

กระบวนการผลิตโซดาไฟโดยทั่วไป มักจะเริ่มต้นจากการนำเกลือสินเธาว์ (SODIUM CHLORIDE) หรือเกลือแกงมาละลายในน้ำสะอาดให้มีความเข้มข้นประมาณ 300 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร จากนั้นนำไปตกตะกอนหรือกรองเพื่อให้ได้น้ำเกลือที่มีความบริสุทธิ์สูง เมื่อได้น้ำเกลือที่บริสุทธิ์แล้ว จึงนำมาผ่านกระบวนการแยกด้วยกระแสไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งจะทำให้น้ำเกลือแตกตัวเป็นแก๊สคลอรีนและไอออนของโซเดียม เมื่อไอออนของโซเดียมผสมกับน้ำในเซลล์ไฟฟ้าเคมี ก็จะเกิดการรวมตัวกันกลายเป็นโซดาไฟขึ้น

อีกวิธีการผลิตโซดาไฟที่น่าสนใจ คือการนำปูนขาว (CALCIUM OXIDE) มาละลายโซดาไฟในสารละลายปูนขาวที่อุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียส จะทำให้ได้โซดาไฟและสารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนต โดยสารประกอบเหล่านี้ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางทั้งในชีวิตประจำวันและในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงยังเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารประกอบทางเคมีชนิดอื่น ๆ ได้อีกด้วย

โซดาไฟเป็นสารเบสแก่ที่มีคุณสมบัติในการละลายได้ดีในน้ำ มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง จึงถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในกระบวนการผลิตต่าง ๆ เช่น การฟอกผ้า การผลิตสบู่ การผลิตกระดาษ เป็นต้น โซดาไฟยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมค่าความเป็นกรด-ด่าง และกระบวนการเร่งปฏิกิริยาเคมีในภาคอุตสาหกรรมอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติและประโยชน์ที่สำคัญเช่นนี้ จึงทำให้โซดาไฟกลายเป็นหนึ่งในสารเคมีที่มีบทบาทสูงในปัจจุบัน

โซดาไฟมีประโยชน์อย่างไรในอุตสาหกรรมไทย

โซดาไฟ หรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ เป็นสารเคมีอเนกประสงค์ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมต่างๆ ของประเทศไทย เริ่มตั้งแต่อุตสาหกรรมขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งพาสารนี้ในกระบวนการผลิต

  • ในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอ โซดาไฟถูกนำมาใช้ในการปรับสภาพเส้นใยให้มีความนุ่มเนียน มันวาว และดูดซับสีย้อมได้ดียิ่งขึ้น โดยจะแช่เส้นใยในสารละลายโซดาไฟความเข้มข้นประมาณ 20-25% ที่อุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25-40 นาที ทำให้เซลลูโลสในเส้นใยคลายตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการถักทอ
  • ส่วนในอุตสาหกรรมกระดาษนั้น โซดาไฟจะถูกนำมาใช้ร่วมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในขั้นตอนการฟอกขาวเยื่อกระดาษ ช่วยให้เส้นใยกระดาษมีความขาวสะอาดโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อ
  • นอกจากนี้ โซดาไฟยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสบู่ ผงซักฟอก และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่าง ๆ โดยใช้ในการปรับสภาพกรดไขมันให้เป็นกลาง รวมถึงใช้ในการล้างทำความสะอาดขวด ภาชนะบรรจุภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหาร
  • ที่น่าสนใจไปกว่านั้น โซดาไฟยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอัญมณี เพื่อล้างพลอยหลังจากผ่านกระบวนการเจียระไนแล้ว ช่วยให้พลอยมีความสะอาดเงางาม

โซดาไฟจึงเปรียบเสมือนสารมหัศจรรย์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของประเทศไทย หากใช้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างน่าประทับใจ

การใช้โซดาไฟ

ข้อควรระวังในการใช้โซดาไฟ

โซดาไฟหรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ (SODIUM HYDROXIDE) เป็นสารเคมีที่มีประโยชน์ในการใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันและในภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม โซดาไฟเป็นสารที่มีความเป็นด่างสูงและมีคุณสมบัติกัดกร่อนทำลายสารไซยาไนด์ได้ หากใช้งานโดยขาดความระมัดระวัง อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยได้ ดังนั้น การใช้งานโซดาไฟจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อควรระวังอย่างเคร่งครัด

อันตรายจากโซดาไฟ

  • หากสูดดมฝุ่นหรือควันของโซดาไฟ อาจทำให้เกิดแผลในจมูกและทางเดินหายใจ
  • หากสัมผัสผิวหนัง อาจทำให้เกิดอาการไหม้และแสบร้อน
  • หากกลืนกินเข้าไป อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือกัดกร่อนทางเดินอาหาร และอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการในเด็กได้

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

  • หากกลืนกินโซดาไฟเข้าไป ห้ามทำให้อาเจียน แต่ให้ดื่มน้ำสะอาดปริมาณมากและรีบพบแพทย์โดยด่วน
  • หากสัมผัสผิวหนังหรือดวงตา ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อน
  • หากสูดดมฝุ่นหรือควันของโซดาไฟ ให้รีบออกไปในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์

การใช้งานโซดาไฟอย่างปลอดภัย

  • ในครัวเรือน ควรเก็บโซดาไฟให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และใช้งานด้วยความระมัดระวัง
  • ในภาคอุตสาหกรรม ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) อย่างเหมาะสม เช่น ถุงมือ แว่นตานิรภัย หน้ากากป้องกันฝุ่น เป็นต้น
  • สถานที่เก็บและใช้งานโซดาไฟ ต้องมีการระบายอากาศที่ดี โปร่งโล่ง ไม่ทึบ
  • จัดเก็บโซดาไฟในภาชนะที่แห้ง ปิดสนิท และห่างจากสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรด
  • การกำจัดโซดาไฟที่เหลือใช้ ต้องแยกทิ้งเป็นขยะอันตรายและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด

สรุป

แม้โซดาไฟจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ควรใช้งานด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด เนื่องจากโซดาไฟมีฤทธิ์เป็นด่าง จึงไม่ควรสัมผัสกับดวงตาและผิวหนังโดยตรง นอกจากนี้ยังไม่ควรรับประทานหรือหายใจเอาไอระเหยเข้าไป เพราะอาจทำให้ระคายเคืองหรือกัดกร่อนได้

31 Responses

  1. คือผมเห็นโซดาไฟมันใช้ในอุตสาหกรรมเยอะแยะเลย แต่มันดีอย่างไรนะ ใช้ทำอะไรได้บ้างในบ้านๆ อยากรู้ว่าจะใช้มันทำความสะอาดได้ป่ะ ปล. กิตติวงษ์ จันทุม ขอบคุณล่วงหน้านะครับผม

  2. มีประโยชน์ต่อการสอนมากเลยที่ได้เข้าใจโซดาไฟมากขึ้น จะนำไปสอนนักเรียนในห้องแล็บของผม ร่วมกันเพิ่มความรู้ เรื่องนี้น่าสนใจมากๆ

  3. เหมือนกันโซดาไฟ มันดูอันตรายแฮะ ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้เหรอ อยากรู้ว่ามันปลอดภัยจริงๆหรือเปล่า

  4. ผมทำงานกับโซดาไฟมานานแล้ว เห็นอันตรายมากมายเลย ต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด เห็นหลายคนบอกใช้ง่ายๆ แต่จริงๆแล้วมันไม่เสี่ยงกับสุขภาพหรือ ความปลอดภัยต้องมาก่อนอย่างไรก็ตามนะ ไม่ใช่แค่ดูแค่ประโยชน์ที่มันนำมา

  5. โซดาไฟมันมีประโยชน์ยังไงบ้างครับในโรงงาน อยากทราบอ่ะ เพราะเห็นใช้กันเยอะแต่ไม่เข้าใจเท่าไหร่

    1. โซดาไฟใช้ในการทำความสะอาดอุปกรณ์และเป็นสารกำจัดไขมันค่ะ นอกจากนี้ยังใช้ในกระบวนการผลิตหลายๆ อย่างเลยนะคะ

  6. แต่ใช้โซดาไฟมากๆ มันจะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมหรือเปล่า กิตติวงษ์ จันทุม ควรอธิบายเรื่องนี้ด้วยนะ

  7. ผมว่าการผลิตโซดาไฟก็ควรคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนะ การใช้สารเคมีทุกอย่างควรมีความรับผิดชอบ

  8. ในงานอุตสาหกรรม โซดาไฟช่วยลดกระบวนการทำความสะอาดให้ง่ายขึ้นมากเลย แต่ก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยนะ

    1. ใช่ครับ โซดาไฟเป็นสารกัดกร่อน ถ้าใช้ไม่ระวังอาจทำให้เกิดอันตรายกับผิวหนังและดวงตาได้

  9. ผมใช้โซดาไฟในการทำความสะอาดอุปกรณ์ทำเบียร์ แต่ก็ต้องระวังเรื่องการใช้ถุงมือป้องกันด้วยนะ

  10. เคยลองใช้โซดาไฟทำความสะอาดบ้านเหมือนกัน แต่อ่านแล้วก็ยังกลัวๆ นิดๆ ว่าจะใช้ไม่ถูกวิธี

  11. สงสัยว่าถ้าเราลดการใช้โซดาไฟลงในอุตสาหกรรม จะมีวิธีแทนที่อะไรบ้างที่สามารถจัดการกับของเสียหรือต้องใช้วิธีทางเคมีอื่นๆ หรือไม่

    1. มีวิธีแทนที่หลายอย่างที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ แต่ควรศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนนำไปใช้

  12. บทความนี้เหมาะสำหรับใช้เป็นตัวอย่างในห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนเข้าใจการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย

  13. ดูเหมือนโซดาไฟจะมีประโยชน์เยอะเลย แต่มันสามารถใช้เป็นอะไรได้บ้างในกีฬาหรือการออกกำลังกายครับ

  14. เห็นว่าโซดาไฟช่วยทำความสะอาดเสื้อผ้าได้ดี จริงไหมคะ เพราะเสื้อผ้าบางชิ้นเปื้อนง่ายมาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความน่าสนใจ